มาทำความรู้จัก แฉหรือชุดเครื่องทองเหลืองกลองให้ดีขึ้นกันเถอะ
แฉ หรือชุดเครื่องทองเหลือง จัดว่าเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลัก ๆ ในกลองชุดเลยทีเดียว เป็นสีสันของเพลง และมีส่วนสำคัญที่ทำให้อารมณ์เพลงมีความน่าสนใจน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น แฉแต่ละใบก็จะมีคาแรคเตอร์ของเสียงที่แตกต่างกันออกไปเพื่อตอบสนองความต้องการหรือจินตนาการของมือกลองแต่ละคน นั่นจึงทำให้ในคอนเสิร์ตระดับโลกเรามักจะพบว่าชุดเครื่องทองเหลืองที่มือกลองใช้นั้นมันมีเยอะแยะจนเต็มไปหมด บทความนี้แอดมินจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก แฉหรือชุดเครื่องทองเหลืองกันให้มากขึ้นอีกสักนิดนะครับ โดยในส่วนประเภทของ แฉ หรือชุดเครื่องทองเหลืองนั่นเราแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. แฉหลัก คือชุดของแฉที่มักจะจัดเป็นชุดขายทั่วไป และเป็นแบบที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด ประกอบไปด้วย
แฉ Hihat
เป็นแฉหลักที่สำคัญที่สุดเพราะ มีหน้าที่ช่วยให้จังหวะมีความกระชับยิ่งขึ้น ลักษณะคือเป็นแฉเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 14 นิ้ว สองใบประกบคว่ำใส่กันติดตั้งบนขาตั้งแบบพิเศษ โดยฉาบใบบน จะถูกยึดกับก้านที่สามารถยกขึ้นหรือกดลงได้ด้วยกระเดื่องสำหรับเหยียบ
แฉ Crash
มีลักษณะเป็นแฉฝาเดียว วางบนขาตั้งฉาบเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 16 นิ้ว อยู่ด้านซ้ายมือของกลองชุด หรือจากมุมมองของคนดูจะอยู่ขวามือนั่นเอง โดยปกติแฉที่จัดชุดขายทั่วไปจะให้ แฉ Crash 16” มาแค่ 1 ใบ ซึ่งหลายคนจึงเลือกที่จะซื้อแฉ Crash ขนาด 18” เพิ่มอีกหนึ่งเติมอีกด้านเพื่อคาแรคเตอร์ที่หลากหลายขึ้นนั่นเอง แฉ Crash จะให้เสียงที่เป็นลักษณะเสียงที่กังวาน แต่ก็มีช่วง Sustain ที่สั้น มักตีตอนเริ่มท่อนเพลงใหม่ หรือตอนจบที่ต้องการสีสันแบบสนุกสนาน อึกทึกครึกโครม เร้าใจ
แฉ Ride
มีลักษณะเป็นแฉฝาเดียวขนาด 20 นิ้ว วางบนขาตั้งแฉ ด้านขวามือของมือกลองหรือซ้ายสุดจากมุมมองของคนดู คาแร็คเตอร์ของเสียงจะบางเบากว่าแฉ Crash ลักษณะเสียงของแฉนี้จะค้างยาวนาน เป็นเสียง Sustain ที่เชื่อมต่อดนตรีอีกห้อง ตรงตามความหมายของคำว่า Ride ที่แปลว่าควบ หรือไปพร้อมกัน ซึ่งก็คือการ”ควบ”โน้ตอื่นๆในบทเพลงนั่นเอง มือกลองใช้ตีคลอในบทเพลงเมื่อเวลาที่ต้องการเสียงแฉให้ดังค้างแบบต่อเนื่อง
2.แฉเสริม คือพวกแฉใบเล็กๆ ที่เสริมเพิ่มเข้ามา ทั้งแฉEffect แฉเจาะรู และแฉที่นำไปซ้อนๆกันเพื่อให้ได้คาแร็คเตอร์เสียงเฉพาะตัว ยกตัวอย่าง เช่น
แฉ Splash
ลักษณะเป็นแฉฝาเดียวขนาดเล็ก วางบนขาตั้งแฉ ขนาดเล็กประมาณ 9-12 นิ้ว ลักษณะคาแร็คเตอร์เสียงของแฉนี้จะให้ความรู้สึกแตกกระจาย ตรงตัวตามชื่อ Splash ที่แปลว่ากระจาย ใช้ตีในส่วนที่ต้องการเน้นเสียงแฉ ที่แตกต่างจากเสียงแฉส่ง เพื่อให้บทเพลงเกิดสีสันที่น่าสนใจ
แฉ China
มีลักษณะเป็นแฉใบใหญ่ที่วางหงาย หรือกลับด้านจากแฉอื่นๆ เสียงที่ออกมาจะกังวานมากที่สุด คล้ายแฉของคณะเชิดสิงโตจีน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ แฉ China นั่นเอง เป็นแฉที่เพิ่งเริ่มได้รับความนิยมสูงในช่วงหลังๆเนื่องจากมีลักษณะซาวด์ที่แตกต่างจากแฉประเภทอื่นๆ นิยมใช้ในเพลงที่ต้องการซาวด์แหลมกังวานเป็นพิเศษ
บทส่งท้าย
ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Zildjian หรือ Sabian เพราะเรามักจะพบในคอนเสิร์ตต่างๆอยู่บ่อยๆ แต่จริงๆในปัจจุบัน แฉหรือชุดเครื่องทองเหลืองก็มีมากมายหลายแบรนด์ในท้องตลาด ซึ่งคุณภาพเสียงนั้น จะดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ราคาถูกแพงต่างๆกันไปก็ตามคุณภาพ ของที่คุณภาพสูงก็อาจจะราคาแพงสักหน่อย ส่วนหนึ่งก็มาจากคุณภาพของวัสดุที่เลือกใช้ แฉที่คุณภาพสูงนั้นมักทำมาจากโลหะผสม(Metal alloys) คือ บรอนซ์ (Bronze) ซึ่งมีส่วนผสมของทองแดงและดีบุก ซึ่งสัดส่วนของโลหะผสมที่เป็นที่ยอมรับเรื่องเสียงกันว่ามีความเป็น Musical tone ที่ดี คือ Bronze 80:20 เช่น ฉาบรุ่น A, K ของ Zildjian เป็นต้น ส่วนแฉที่ราคาถูกลงจะใช้โลหะอย่างอื่นแทน เช่น ทองเหลือง(Brass) ซึ่งเป็นส่วนผสมของทองแดง+สังกะสี ซึ่งคุณภาพเสียงก็จะตามคุณภาพของวัสดุนั่นเองครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ไว้พบกันอีกเรื่อยๆในบทความต่อไปนะครับ
